อนุทินครั้งที่10

 อนุทินครั้งที่10

องค์ความรู้ที่ได้รับ  

การเรียนรู้จักลูกค้าของเราบนสังคมออนไลน์  พฤติกรรมของผู้บริโภคออนไลน์  กระบวนการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคประกอบไปด้วยอะไรบ้าง  การตระหนักถึงความต้องการ (Need Recognition)  โดยจัดทำแบบสอบถาม การสัมภาษณ์ หรือใช้เทคนิคเก็บข้อมูลวิธีอื่น การจัดหาสินค้าและบริการมาเสนอขาย  การแสวงหาข้อมูล (Information  Search)  ลูกค้าเลือกใช้เครื่องมือเปรียบเทียบสินค้าเพื่อสร้างความมั่นใจในการตัดสินใจซื้อมากยิ่งขึ้น
การประเมินข้อมูลแต่ละทางเลือก (Evaluation of Alternative)ขึ้นอยู่กับว่าลูกค้าจะใช้อะไรเป็นเกณฑ์อาจเป็นคุณสมบัติผลิตภัณฑ์ (product attributes) ทัศนะคติในการเลือกซื้อสินค้า หรือเลือกตราสินค้า  การตัดสินใจซื้อ การชำระเงิน และการจัดส่ง (Purchase , Payment and Delivery)  การประเมินผลสินค้าและบริการหลังการซื้อ (Post purchase  Service  and  Evaluation)
         ประเภทของผู้บริโภคออนไลน์  จำแนกได้ ประเภท ดังนี้ 
         1.ผู้บริโภคที่ต้องการประหยัดเวลา 
         2.ผู้บริโภคที่ต้องการหลีกเลี่ยงปัญหา 
         3.ผู้บริโภคที่มีความคิดทันสมัย 
         4.ผู้บริโภคที่ชอบท่องเว็บไซต์แต่ไม่ชอบซื้อผ่านอินเตอร์เน็ต
         5.ผู้บริโภคที่จะซื้อสินค้าเมื่อเห็นของจริงก่อนเท่านั้น 
         6.ผู้บริโภคที่ชอบแสวงหาสิ่งแปลกใหม่  
         7.ผู้บริโภคที่นิยมชื่อตราสินค้า 
         8.ผู้บริโภคที่ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิต
 นอกจากนี้ยังมีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายทางการตลาด ซึ่งแบ่งออกเป็นอีก กลุ่มคือ 
         1. การตลาดรวม (Mass  Marketing) 
         2. การตลาดทางตรง (Direct  Marketing) 
         3. การตลาดเฉพาะ (Micromarketing  or  Niche  Marketing)             
         4. การตลาดส่วนบุคคล (Personalized or One-to-One Marketing) 
การสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า
         1. การสร้างความเป็นส่วนตัว (Personalization) 
          - สอบถามข้อมูลจากลูกค้าโดยตรง 
          - สังเกตพฤติกรรมของลูกค้าในขณะที่ออนไลน์ 
          - พิจารณาจากรายการสั่งซื้อครั้งก่อน 
        2.การตลาดโดยได้รับการยินยอม  (Permission  Marketing) 
        3. การใช้บริการ ผ่านทางผู้แทนโฆษณา (Affiliate  Marketing) 
        4. การให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในการผลิต และปรับแต่งสินค้า (Customization and Customer Co-Production) 
        5.  การจัดการข้อมูล (Transactive Content) 
        6.  การบริการลูกค้า (Customer  Service) 
        -  ระบบสนทนาแบบ Real Time สำหรับลูกค้าสอบถามปัญหาการใช้งานได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง
        -  ระบบตอบสนองการทำงานแบบอัตโนมัติ เพื่อลดระยะเวลาในการทำธุรกรรมของลูกค้าลง องค์กรสามารถติดตั้งระบบตอบสนองการทำงานแบบอัตโนมัติ ทำหน้าที่ส่งอีเมล์ยืนยันรายการสั่งซื้อที่ได้รับจากลูกค้า รวมทั้งตอบปัญหาบางกรณีที่ระบบสามารถจัดการได้
         ต่อไปเป็นเรื่องราวของ Social Network ก็มีเรื่องของความเป็นมา และหัวข้อที่เราควรจะศึกษาหาความรู้โดยมีหัวข้อดังนี้
        - ยุคของเว็บ
        -ความหมายของ Social Network
        -ประเภทของ Social Network
        -ลักษณะการใช้งาน Social Network
        -ปัญหาและแนวทางแก้ปัญหาใน Social Network
        -ประโยชน์ของ Social Network
        -ข้อดีและข้อเสียของ Social Network
ลักษณะการใช้งาน Social Network ได้แก่  
        1. Identify Network   เผยแพร่ตัวตน 
        2. Creative Network  เผยแพร่ผลงาน
        3.Collaboration Network   ร่วมกันทำงาน คือเป็นการร่วมกันพัฒนาซอฟต์แวร์หรือส่วนต่างๆของซอฟต์แวร์ 
        4. Gaming/Virtual Reality  โลกเสมือน 
        5. Peer to Peer (P2P)
เราควรศึกษาประโยชน์และโทษของ Social Networkเอาไว้ด้วยเพื่อที่จะทำให้สังคมเกิดการเรียนรู้และการใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยไม่ทำให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดต้องมาเดือดร้อนกับการใช้เครื่องมือเหล่านี้ทำการค้าของเรา
ข้อดีของ Social Network 
          -สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ในสิ่งที่สนใจร่วมกันได้
          -เป็นคลังข้อมูลความรู้ขนาดย่อมเพราะเราสามารถเสนอและแสดงความคิดเห็น แลกเปลี่ยนความรู้ หรือตั้งคำถามในเรื่องต่างๆ เพื่อให้บุคคลอื่นที่สนใจหรือมีคำตอบได้ช่วยกันตอบ 
         -ประหยัดค่าใช้จ่ายในการติดต่อสื่อสารกับคนอื่น สะดวกและรวดเร็ว
         -เป็นสื่อในการนำเสนอผลงานของตัวเอง เช่น งานเขียน รูปภาพ วีดิโอต่างๆ เพื่อให้ผู้อื่นได้เข้ามารับชม  และแสดงความคิดเห็น 
         -ใช้เป็นสื่อในการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ หรือบริการลูกค้าสำหรับบริษัทและองค์กรต่างๆ ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้า
         -ช่วยสร้างผลงานและรายได้ให้แก่ผู้ใช้งาน เกิดการจ้างงานแบบใหม่ๆ ขึ้น
ข้อเสียของ Social Network 
         -เว็บไซต์ให้บริการบางแห่งอาจจะเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวมากเกินไป หากผู้ใช้บริการไม่ระมัดระวังในการกรอกข้อมูล อาจถูกผู้ไม่หวังดีนำมาใช้ในทางเสียหาย หรือละเมิดสิทธิส่วนบุคคลได้
        -Social Network เป็นสังคมออนไลน์ที่กว้าง หากผู้ใช้รู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือขาดวิจารณญาณ อาจโดนหลอกลวงผ่านอินเทอร์เน็ต หรือการนัดเจอกันเพื่อจุดประสงค์ร้าย ตามที่เป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์
        -เป็นช่องทางในการถูกละเมิดลิขสิทธิ์ ขโมยผลงาน หรือถูกแอบอ้าง เพราะ Social Network Service เป็นสื่อในการเผยแพร่ผลงาน รูปภาพต่างๆ ของเราให้บุคคลอื่นได้ดูและแสดงความคิดเห็น 

        -ข้อมูลที่ต้องกรอกเพื่อสมัครสมาชิกและแสดงบนเว็บไซต์ในรูปแบบ Social Network ยากแก่การตรวจสอบว่าจริงหรือไม่ ดังนั้นอาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับเว็บไซต์ที่กำหนดอายุการสมัครสมาชิก หรือการถูกหลอกโดยบุคคลที่ไม่มีตัวตนได้

ประโยชน์ที่ได้รับ  

ได้รู้ถึงพฤติกรรมการใช้จ่ายในรูปแบบต่างๆ ของลูกค้า และ เว็บในแต่ล่ะยุค 1.0 เว็บ 2.0  เว็บ3.0

สรุป 

ได้เรียนรู้ประเภทของผู้ และวิธีการสร้างสัมพันอันดีกับลูกค้า พร้อมทั้งเข้าใจเว็บในแต่ล่ะยุคมีความเป็นมาอย่างไร

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น